ฝน มา
แดด ออก
ผู้คนจากไป
…
ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ฝนตก ลมแรงอยู่หลายวันทีเดียว
นั่นเป็นเรื่องของลมฟ้าอากาศ
หากว่าในเรื่องส่วนตัวของเราเอง
มีหลายเรื่องหลายราวผลัดเปลี่ยนเวียนเข้ามาในชีวิต
เหมือนลมฝนแรงๆ ที่ฟาดบนหลังคาจนสังกะสีปลิวหายไป
สังกะสีนั่น หล่นเข้ามาในโลกของเรา
และใต้สังกะสีนั่น ดันมีโลกอีกโลกซ่อนอยู่
มันทำให้โลกของเรามีมิติมากกว่าชั้นเดียวอย่างที่เคยเป็น
เพราะโลก ใต้สังกะสีนั่น มีอิทธิพลต่อโลกของเรา
โลกที่ว่านั่น เป็นโลกของการงาน และ โลกของผู้คนในเรื่องงาน
โลกที่มองดูแล้ว หนักหนา และมีแนวโน้มว่า จะเจอศึกหนักเอาการ
มันส่งผลกระทบต่อตัวเราอย่างแรง
โลกนั้น ทำให้เราต้องส่องกระจกดูตัวเอง
ต้องปรับตัวใหม่…
เพราะโลกใต้สังกะสี จะยังอยู่อย่างนั้น
จนกว่าเราจะมีแรงมากพอ
ที่จะยกเอาสังกะสีนั้นออกไป
…
ในเดือนเดียวกันนี่เอง
มีหลายวันที่แสงแดดร้อนแรง
ดวงตาเบื้องหลังกรอบแว่น
ต้องหรี่ตา บีบให้รูรับแสงมันแคบลง
เพื่อให้มองเห็นอะไรๆ ชัดขึ้น
โลกใต้สังกะสี แสนทรงอิทธิพล
มีสิ่งมีชีวิตบางอย่าง
เดินออกมาจากใต้สังกะสี
และนั่นเอง ทำให้เราจำใจ ต้องผลักไส เด็กหญิงผมชี้ๆ คนหนึ่ง ให้ออกไปจากชีวิต
ทั้งที่ไม่ชอบสิ่งมีชีวิตบางอย่างนั่น
ทั้งที่อยากให้เด็กหญิงยังร่าเริงอยู่ในโลกใบเดิม
รวมทั้งไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น
…
แต่ในโลกหลายมิตินั่น
วัยวุฒิ กับ คุณวุฒิ จะต้องเดินไปพร้อมๆ กัน
หากใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาในโลกของเรา
อยากจะก้าวเดินจากไป
เราก็ไม่รั้ง
แต่ว่า เด็กหญิง ล่ะ
เธอจากไปจริงๆ เหรอ
เปล่าเลย
ตอนนี้ เราทำได้ดีที่สุดคือ
ซ่อนเด็กหญิงคนนั้นเอาไว้ ในอีกมิติหนึ่ง
ซึ่งอยู่ในโลกใบเดียวกับเรา
เพื่อรอให้เด็กหญิงออกมา
วิ่งเล่นน้ำฝน หรือ ตากแดดร้อนเปรี้ยง อย่างที่เคย
โดยไม่มีโลกอื่น อย่างเช่น โลกใต้สังกะสี เข้ามาปะปน
พักผ่อนเสียก่อน
หยุดเล่นสักพักนะ
เด็กหญิงคนนั้น
คนที่อยากเป็นช่าง…และเล่นอย่างจริงจัง
เราจะรอ วันใหม่
ที่เป็นวันของเด็กหญิงคนเดิม